เมื่อไมโครซอฟท์ออกมาประกาศอย่างชัดเจนว่า 8 เมษายนที่จะถึงนี้จะหยุดสนับสนุนซอฟต์แวร์อัพเกรดต่างๆให้กับWindows XP หากลูกค้าทั่วไปหรือองค์กรไม่อัพเกรดไปสู่ Windows เวอร์ชันใหม่แล้วละก็ ลูกค้าก็จะพบกับอันตรายจากไวรัส มัลแวร์หรืออื่นๆ ที่อาจเจาะระบบเข้ามาล้วงข้อมูลส่วนตัวไปได้ ซึ่งหนึ่งในความเสี่ยงดังกล่าวอาจจะเกิดขึ้นกับตู้ ATM
จากการเปิดเผยของเว็บไซต์ Businessweek ระบุว่าตู้ ATM ทั่วโลกกว่า 95% ยังใช้ระบบปฏิบัติการ Windows XP อยู่ ซึ่งอีกไม่กี่เดือนก็จะถึงวันที่ 8 เมษายน ที่ไมโครซอฟท์กำหนดแล้วว่าจะหยุดการปล่อยซอฟต์แวร์สนับสนุน Windows XP อย่างเป็นทางการ นั่นแปลว่าธนาคารต่างๆทั่วโลกคงต้องสรรหามาตรการรองรับกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่เช่นนั้นความเสี่ยงต่างๆที่ไมโครซอฟท์ออกมาแจ้งเตือนก่อนหน้านี้อาจส่งผลกระทบต่อธุรกรรมทางการเงินของลูกค้าก็เป็นได้
สำหรับตู้ ATM หากนับเฉพาะในประเทศไทยถือว่ามีปริมาณมากและกระจายอยู่ทั่วทุกพื้นที่ใน 77 จังหวัด การจะอัพเกรดไปสู่ Windows เวอร์ชันใหม่คงต้องใช้เวลาในการปรับเปลี่ยนนานพอสมควร ฉะนั้นน่าติดตามว่าแต่ละธนาคารจะมีมาตรการอย่างไรกับนโยบายของไมโครซอฟท์ครั้งนี้